โปรแกรมวัดจุดเก็บข้อมูล (Measure Points): บันทึกค่าพิกัด

โปรแกรมวัดจุดเก็บข้อมูล (Measure Points): บันทึกค่าพิกัดในแต่ละจุดภาคสนาม ️

โปรแกรม Measure Points หรือ Data Collection (เก็บข้อมูล) คือฟังก์ชันหลักที่นักสำรวจใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลพิกัด 3 มิติ ($X, Y, Z$) ของจุดต่าง ๆ ในพื้นที่จริง ข้อมูลที่ได้จากโปรแกรมนี้ถือเป็นข้อมูลดิบ (Raw Data) ที่สำคัญที่สุดในการสร้างแผนที่, การออกแบบ, และการตรวจสอบความถูกต้องของโครงการก่อสร้างทั้งหมด

หลักการทำงานของการเก็บข้อมูล

โปรแกรม Measure Points ทำงานโดยอาศัยหลักการของ Total Station ที่รวมการวัดมุมและการวัดระยะทางเข้าด้วยกัน เพื่อหาค่าพิกัดของเป้าหมาย:

1. การตั้งค่าเริ่มต้น: ต้องทำการ Set Up กล้อง (กำหนดพิกัด $X, Y, Z$ ของตัวกล้อง) และทำการ Orientation (กำหนดทิศทางอ้างอิง) ให้ถูกต้อง
2. การวัดค่า: เมื่อผู้ใช้เล็งกล้องไปยังเป้าปริซึม (หรือพื้นผิวในโหมด Non-Prism) กล้องจะวัดค่าหลัก 3 ค่าพร้อมกัน:
   • มุมราบ (Horizontal Angle): มุมที่วัดจากทิศทางอ้างอิง
   • มุมดิ่ง (Vertical Angle): มุมที่วัดจากแนวดิ่ง (Zenith) หรือแนวราบ
   • ระยะทางลาดเอียง (Slant Distance - D): ระยะทางจากกล้องถึงเป้าหมาย
3. การคำนวณพิกัด: กล้องจะใช้ค่าเหล่านี้ร่วมกับค่าความสูงของกล้อง (Instrument Height) และความสูงของปริซึม (Prism Height) เพื่อคำนวณค่าพิกัด $X, Y$ (Easting, Northing) และ $Z$ (Elevation) ของจุดที่วัดได้ทันที .

องค์ประกอบหลักในการบันทึกข้อมูล

การบันทึกข้อมูลแต่ละจุดจะต้องประกอบด้วยข้อมูลพื้นฐานดังนี้:

ประโยชน์ของโปรแกรม Measure Points

• สร้างแผนที่ภูมิประเทศ (Topographic Mapping): การเก็บพิกัด $X, Y, Z$ เป็นรากฐานในการสร้างแผนที่แสดงระดับความสูงและรายละเอียดของพื้นที่
• ตรวจสอบอาคาร (As-Built Survey): ใช้ในการวัดพิกัดของโครงสร้างที่สร้างเสร็จแล้ว เพื่อเปรียบเทียบกับแบบแปลน (Design Plan)
• รวดเร็วและแม่นยำ: Total Station สามารถวัดและบันทึกข้อมูลได้ทันที ณ จุดนั้น ๆ โดยไม่ต้องจดบันทึกค่ามุม/ระยะทางด้วยมือ ลดความผิดพลาดในการป้อนข้อมูล

โปรแกรม Measure Points จึงเป็นฟังก์ชันที่เปลี่ยนการทำงานสำรวจจากยุคอะนาล็อกที่ต้องจดบันทึกด้วยมือ เข้าสู่ยุคดิจิทัลที่สามารถบันทึกพิกัด 3 มิติได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบในตัวกล้องเอง