ความแตกต่างระหว่างกล้องวัดมุมแบบอ่านค่า 1 ฟิลิปดา กับ 5 ฟิลิปดา

Last updated: 17 ต.ค. 2568  |  16 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ความแตกต่างระหว่างกล้องวัดมุมแบบอ่านค่า 1 ฟิลิปดา กับ 5 ฟิลิปดา

ความแตกต่างระหว่างกล้องวัดมุมแบบอ่านค่า 1 ฟิลิปดา กับ 5 ฟิลิปดา

ค่าที่ระบุว่า 1 ฟิลิปดา (1″) หรือ 5 ฟิลิปดา (5″) คือ ค่าละเอียดที่อ่านได้ (least count) ไม่ใช่ความแม่นยำทั้งหมดของเครื่องโดยตรง การเลือกใช้ให้เหมาะต้องพิจารณาเกณฑ์ความคลาดของงาน ระยะเล็งจริง สภาพแวดล้อม และขั้นตอนควบคุมคุณภาพร่วมกัน

1) ค่าละเอียด (least count) กับความแม่นยำจริง

  • 1″ และ 5″ คือความละเอียดการอ่านมุมของระบบอ่านค่า
  • ความแม่นยำเชิงมุมจริงให้ดูจากสเปก Angular accuracy / มาตรฐานภาคสนาม (เช่น ISO 17123-3) ของผู้ผลิต
  • โดยทั่วไป กล้อง 1″ มักให้ความแม่นยำระดับ ~1–2″ ส่วนกล้อง 5″ มัก ~5–10″ (ขึ้นกับรุ่น)

2) ผลกระทบเชิงระยะจากความคลาดของมุม

ความคลาดด้านข้างโดยประมาณ: δ ≈ D · \u03B8rad, โดย 1″ ≈ 1/206,265 เรเดียน

ระยะเล็ง (m)มุมผิด 1″ → คลาด (mm)มุมผิด 5″ → คลาด (mm)
500.2421.212
1000.4852.424
1500.7273.636
2000.9704.848

หมายเหตุ: ใช้เทียบสเกลผลกระทบทั้งแนวราบและแนวดิ่งเมื่อแนวเล็งเกือบขนานพื้น

3) งานไหนเลือก 1″ และงานไหนเลือก 5″

เหมาะกับกล้อง 1″ (ละเอียดกว่า)

  • งานควบคุมที่ต้องการความคลาดระดับมิลลิเมตรที่ระยะ 50–200 ม. (alignment โครงเหล็ก/สะพาน/ราง, ตั้งเครื่องจักร, monitoring)
  • เครือข่ายควบคุมมุม/ทิศ, resection ระยะไกล, งานที่ต้องวัดซ้ำหลายช็อตแล้วเฉลี่ย

เหมาะกับกล้อง 5″ (งานทั่วไป)

  • งานก่อสร้างอาคาร–ถนนทั่วไป วางผัง สำรวจภูมิประเทศ ที่ยอมรับความคลาดราว ±3–5 มม. ที่ระยะ 50–100 ม.
  • หน้างานที่ข้อจำกัดหลักมาจากสภาพแวดล้อม (ลม/มิราจ/พื้นสั่น) มากกว่าความละเอียดของเครื่อง

4) เทียบกับความคลาดการวัดระยะ (EDM)

EDM ทั่วไป: สเปกโดยประมาณ ±(2 มม. + 2 ppm × ระยะ) → ที่ 100 ม. คลาดระยะ ~±2.2 มม.

  • ใช้กล้อง 5″: คลาดมุมด้านข้าง ~2.4 มม. (ใกล้เคียง EDM)
  • ใช้กล้อง 1″: ~0.5 มม. (เล็กกว่า EDM มาก เหมาะเมื่อมุมเป็นตัวชี้ขาดความแม่นยำ)

สรุป: ถ้างานชี้ขาดด้วยทิศ/มุม → เลือก 1″; ถ้างานจำกัดด้วย EDM/สิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว → 5″ เพียงพอ

5) ต้นทุน เวลา และความเสถียร

  • กล้อง 1″: ราคาสูงกว่า ไวต่อการตั้งศูนย์/ระดับ ต้องขาตั้งและ tribrach ที่นิ่ง มักต้องเก็บ Face I/II หลายรอบ ใช้เวลามากขึ้นแต่ได้วงมุมคุณภาพสูง
  • กล้อง 5″: เร็ว คล่องตัว ต้นทุนต่ำ เหมาะกับทีมก่อสร้างทั่วไป

6) เช็กลิสต์ตัดสินใจเร็ว

  • เกณฑ์งาน ≤ ±1 มม. ที่ 100 ม. → เลือก 1″ และเข้มงวดขั้นตอน (Centering/Level, Back-sight 0–180°, Face I/II)
  • เกณฑ์งานราว ±3–5 มม. ที่ 100 ม. → เลือก 5″ โดยคุมลม/มิราจ/พื้นสั่นให้ดี
  • ระยะเล็งยิ่งไกล ความต่าง 1″ vs 5″ ยิ่งชัด (ค่าคลาดเชิงเส้นโตตามระยะ)

7) ข้อควรคุมคุณภาพ (ไม่ว่าคุณใช้รุ่นใด)

  • ทำ Double Centering (Face I/II) และตรวจ Back-sight 0–180° ทุกวงมุมสำคัญ
  • ตัด parallax ให้หมด: โฟกัสตา → โฟกัสเป้า → ยืนยันเส้นใยและภาพไม่เลื่อนสัมพันธ์กัน
  • เลี่ยงเล็งผ่านพื้นร้อน/ลมแรง ใช้ร่มบังหรือยกแนวเล็งให้สูงเพื่อลด mirage
  • ตรวจ misclosure ของวงมุม/ทราเวิร์ส หากเกินเกณฑ์ให้วัดซ้ำทันที
บทสรุป: ความต่างหลักของ 1″ กับ 5″ คือสเกลความละเอียดของมุมที่แปลงเป็นความคลาดเชิงเส้นต่างกันหลายเท่า งานควบคุมละเอียดหรือระยะยาวควรใช้ 1″ เพื่อรักษาความแม่นยำ ส่วนงานก่อสร้างทั่วไป 5″ ให้สมดุลระหว่างคุณภาพ เวลา และงบประมาณได้ดีกว่า ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นกับวินัยในการควบคุมคุณภาพภาคสนามเสมอ

ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้