Last updated: 2 พ.ค. 2568 | 11 จำนวนผู้เข้าชม |
ในการใช้กล้องสำรวจ เช่น กล้องวัดมุม (Theodolite) หรือ กล้อง Total Station ขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การตั้งกล้องให้จุดศูนย์กลางของตัวเครื่องอยู่ตรงกับจุดควบคุมบนพื้นดินอย่างแม่นยำ อุปกรณ์ที่ช่วยในการกำหนดตำแหน่งนี้เรียกว่า ลูกดิ่ง (Plummet) ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเส้นอ้างอิงแนวดิ่งลงสู่จุดที่ต้องการ โดยทั่วไปมีอยู่สองประเภทหลักๆ คือ แบบที่ใช้ระบบเลนส์ให้ผู้ใช้มองลงไป (Optical Plummet หรือ กล้องส่องหมุด) และแบบที่ใช้ลำแสงเลเซอร์ส่องลงไป (Laser Plummet หรือ กล้องเลเซอร์ชี้หมุด) ทั้งสองแบบมีวิธีการทำงานและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อความเหมาะสมในการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ
คืออะไร: เป็นระบบเลนส์หรือกล้องขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ภายในตัวกล้องสำรวจ ผู้ใช้จะมองผ่านเลนส์นี้ลงไปยังพื้น เพื่อเล็งเส้นกากบาทให้ตรงกับจุดหมุดบนพื้นดิน
คืออะไร: เป็นแหล่งกำเนิดแสงเลเซอร์ (ส่วนใหญ่มักเป็นเลเซอร์สีแดง) ติดตั้งอยู่ที่ส่วนฐานของกล้อง ยิงลำแสงเลเซอร์ลงไปบนพื้นดิน แสดงผลเป็นจุดเลเซอร์ให้ผู้ใช้เลื่อนกล้องจนจุดเลเซอร์อยู่ตรงกับจุดหมุด
การเลือกระหว่างกล้องส่องหมุดกับกล้องเลเซอร์ชี้หมุดควรพิจารณาจากสภาพแวดล้อมและลักษณะงานเป็นหลัก:
หากการปฏิบัติงานส่วนใหญ่อยู่ กลางแจ้ง มีแสงแดดจัดบ่อยครั้ง และต้องการความทนทานโดยไม่พึ่งพาแบตเตอรี่ กล้องส่องหมุด (Optical Plummet) อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
หากต้องการ ความสะดวก รวดเร็ว ปฏิบัติงานในที่ แสงน้อย ภายในอาคาร หรือต้องการความง่ายในการทำงานคนเดียว กล้องแบบเลเซอร์ชี้หมุด (Laser Plummet) จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
แม้จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่กล้องทั้งสองประเภทต่างก็มีประสิทธิภาพในการช่วยให้กล้องสำรวจตั้งตรงกับจุดหมุดได้อย่างแม่นยำ การทำความเข้าใจในคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเลือกรุ่นกล้องที่มีลูกดิ่งประเภทที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพหน้างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
28 มี.ค. 2568
28 เม.ย 2568
11 เม.ย 2568
25 เม.ย 2568