เลือกแบบไหนดี? กล้องส่องหมุด (Optical) กับ เลเซอร์ชี้หมุด (Laser) ในกล้องสำรวจ

Last updated: 2 พ.ค. 2568  |  11 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เลือกแบบไหนดี? กล้องส่องหมุด (Optical) กับ เลเซอร์ชี้หมุด (Laser) ในกล้องสำรวจ


เลือกแบบไหนดี? กล้องส่องหมุด (Optical) กับ เลเซอร์ชี้หมุด (Laser) ในกล้องสำรวจ

ในการใช้กล้องสำรวจ เช่น กล้องวัดมุม (Theodolite) หรือ กล้อง Total Station ขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การตั้งกล้องให้จุดศูนย์กลางของตัวเครื่องอยู่ตรงกับจุดควบคุมบนพื้นดินอย่างแม่นยำ อุปกรณ์ที่ช่วยในการกำหนดตำแหน่งนี้เรียกว่า ลูกดิ่ง (Plummet) ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเส้นอ้างอิงแนวดิ่งลงสู่จุดที่ต้องการ โดยทั่วไปมีอยู่สองประเภทหลักๆ คือ แบบที่ใช้ระบบเลนส์ให้ผู้ใช้มองลงไป (Optical Plummet หรือ กล้องส่องหมุด) และแบบที่ใช้ลำแสงเลเซอร์ส่องลงไป (Laser Plummet หรือ กล้องเลเซอร์ชี้หมุด) ทั้งสองแบบมีวิธีการทำงานและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อความเหมาะสมในการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ

1. กล้องส่องหมุด (Optical Plummet)

คืออะไร: เป็นระบบเลนส์หรือกล้องขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ภายในตัวกล้องสำรวจ ผู้ใช้จะมองผ่านเลนส์นี้ลงไปยังพื้น เพื่อเล็งเส้นกากบาทให้ตรงกับจุดหมุดบนพื้นดิน

  • ข้อดี: จุดเด่นของกล้องส่องหมุดคือ ไม่ต้องใช้พลังงานแบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา และมีความทนทานสูงเนื่องจากมีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์น้อยกว่า ที่สำคัญคือ มักจะ มองเห็นจุดหมุดบนพื้นได้ชัดเจนแม้ในสภาพแสงแดดจัด ซึ่งเลเซอร์อาจมองไม่เห็น
  • ข้อเสีย: ข้อจำกัดหลักคือ ผู้ใช้ต้องก้มลงไปมองผ่านช่องมองภาพ ซึ่งอาจไม่สะดวกหรือลำบากในการใช้งานซ้ำๆ นอกจากนี้ การใช้งานในที่แสงน้อยหรือมืดทำได้ยาก ความแม่นยำขึ้นอยู่กับสายตาและการปรับโฟกัสของผู้ใช้แต่ละคน และอาจเกิดความคลาดเคลื่อนจาก Parallax ได้

2. กล้องแบบเลเซอร์ชี้หมุด (Laser Plummet)

คืออะไร: เป็นแหล่งกำเนิดแสงเลเซอร์ (ส่วนใหญ่มักเป็นเลเซอร์สีแดง) ติดตั้งอยู่ที่ส่วนฐานของกล้อง ยิงลำแสงเลเซอร์ลงไปบนพื้นดิน แสดงผลเป็นจุดเลเซอร์ให้ผู้ใช้เลื่อนกล้องจนจุดเลเซอร์อยู่ตรงกับจุดหมุด

  • ข้อดี: ข้อได้เปรียบที่ชัดเจนคือ ความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งาน ผู้ใช้ไม่ต้องก้มลงมอง สามารถทำงานได้ง่ายแม้ทำงานคนเดียว จุดเลเซอร์มองเห็นได้ดีในที่แสงน้อยหรือภายในอาคาร ซึ่งสะดวกกว่ากล้องส่องหมุดมาก
  • ข้อเสีย: ข้อจำกัดสำคัญคือ ต้อง ใช้พลังงานแบตเตอรี่ และมักจะ มองเห็นจุดเลเซอร์ได้ยากหรือไม่ได้เลยในสภาพแสงแดดจัด นอกจากนี้ คุณภาพของพื้นผิวที่ยิงเลเซอร์ไป (เช่น พื้นผิวสะท้อนแสง สีเข้ม) อาจส่งผลต่อความชัดเจนและความแม่นยำของจุดเลเซอร์ได้ และตัวเลเซอร์เองอาจต้องการการสอบเทียบเพื่อให้แน่ใจว่าลำแสงตรงกับแกนแนวดิ่งอย่างแท้จริง

สรุปเพื่อการตัดสินใจ:

การเลือกระหว่างกล้องส่องหมุดกับกล้องเลเซอร์ชี้หมุดควรพิจารณาจากสภาพแวดล้อมและลักษณะงานเป็นหลัก:

หากการปฏิบัติงานส่วนใหญ่อยู่ กลางแจ้ง มีแสงแดดจัดบ่อยครั้ง และต้องการความทนทานโดยไม่พึ่งพาแบตเตอรี่ กล้องส่องหมุด (Optical Plummet) อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

หากต้องการ ความสะดวก รวดเร็ว ปฏิบัติงานในที่ แสงน้อย ภายในอาคาร หรือต้องการความง่ายในการทำงานคนเดียว กล้องแบบเลเซอร์ชี้หมุด (Laser Plummet) จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า

แม้จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่กล้องทั้งสองประเภทต่างก็มีประสิทธิภาพในการช่วยให้กล้องสำรวจตั้งตรงกับจุดหมุดได้อย่างแม่นยำ การทำความเข้าใจในคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเลือกรุ่นกล้องที่มีลูกดิ่งประเภทที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพหน้างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้