แก้ปัญหาคาใจ เมื่อกล้องวัดระดับไม่ตรง ควรทำอย่างไร ?

Last updated: 2 มิ.ย. 2568  |  13 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แก้ปัญหาคาใจ เมื่อกล้องวัดระดับไม่ตรง ควรทำอย่างไร ?

แก้ปัญหาคาใจ: เมื่อกล้องวัดระดับไม่ตรง ควรทำอย่างไร?

กล้องวัดระดับ (Automatic Level หรือ Auto Level) เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับงานก่อสร้างและสำรวจที่ต้องการความแม่นยำในการหาค่าระดับ แต่บางครั้ง แม้จะตั้งกล้องอย่างระมัดระวังแล้ว คุณก็อาจสังเกตเห็นว่าค่าที่อ่านได้ดูแปลกๆ หรือไม่สอดคล้องกัน ปัญหากล้องวัดระดับไม่ตรงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อความถูกต้องของงาน หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที บทความนี้จะชี้แจงปัญหาที่พบบ่อย สาเหตุ และวิธีการตรวจสอบแก้ไขเบื้องต้น เพื่อให้นักสำรวจหรือช่างก่อสร้างสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างมั่นใจ


สัญญาณบ่งชี้ว่ากล้องวัดระดับของคุณอาจไม่ตรง:

  • ค่าระดับที่อ่านได้ไม่สอดคล้องกัน: เมื่อวัดค่าระดับของจุดเดิมซ้ำๆ หรือวัดจากจุดอ้างอิงที่ทราบค่าแล้ว แต่ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
  • ลูกน้ำวงกลมไม่เสถียร: แม้จะปรับฟุตสกรูจนลูกน้ำอยู่ตรงกลางแล้ว แต่เมื่อหมุนกล้อง ลูกน้ำกลับเคลื่อนที่ออกจากศูนย์
  • ภาพในกล้องไม่ชัดเจน หรือสั่นไหวผิดปกติ: (อาจไม่ใช่ปัญหาความไม่ตรงโดยตรง แต่อาจบ่งชี้ถึงปัญหาภายใน)
  • ผลการตรวจสอบ "Two-Peg Test" ไม่ผ่าน: นี่คือการทดสอบมาตรฐานที่ช่วยยืนยันว่ากล้องยังคงทำงานได้อย่างแม่นยำหรือไม่

สาเหตุหลักที่ทำให้กล้องวัดระดับไม่ตรง:

  1. การตั้งกล้องและปรับระดับไม่ถูกต้อง:
    • ตั้งขาตั้งกล้องไม่มั่นคง: ขาตั้งโยกเยก หรือไม่ได้ปักลงดินแน่นหนา
    • ไม่ได้ตั้งศูนย์กล้องเหนือจุดอ้างอิงอย่างแม่นยำ: ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการส่งค่าระดับจากจุดที่ตั้งกล้อง
    • ปรับลูกน้ำวงกลมไม่เข้าศูนย์: แม้กล้องจะมี Compensator แต่การปรับระดับเบื้องต้นก็สำคัญมาก
  2. ปัญหาที่ Compensator (คอมเพนเซเตอร์):
    • Compensator ค้าง หรือทำงานผิดปกติ: Compensator เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยปรับแนวระดับสายตาให้เป็นแนวราบโดยอัตโนมัติ หากกลไกนี้เสียหรือค้าง (เช่นจากการกระแทกหรือการเสื่อมสภาพ) กล้องจะไม่สามารถปรับระดับสายตาได้อย่างถูกต้อง
    • ความเสียหายจากการตกหล่นหรือกระแทก: เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Compensator หรือชิ้นส่วนภายในอื่นๆ เสียหาย
  3. ความผิดพลาดในการอ่านค่าจากไม้สต๊าฟ (Human Error):
    • การอ่านผิดช่อง/ผิดขีด: โดยเฉพาะในระยะไกล หรือเมื่อแสงไม่เพียงพอ
    • ไม้สต๊าฟไม่ได้ตั้งตรง: หากไม้สต๊าฟเอียง จะทำให้ค่าที่อ่านได้สูงกว่าความเป็นจริง
    • ปรากฏการณ์ Parallax: เกิดจากการวางแนวสายตาที่ไม่ตั้งฉากกับเส้นเล็ง ทำให้เห็นเส้นเล็งและภาพบนไม้สต๊าฟเคลื่อนที่ออกจากกันเมื่อขยับศีรษะ
  4. สภาพแวดล้อม:
    • การสั่นสะเทือน: จากเครื่องจักร รถยนต์ หรือลมแรง อาจทำให้กล้องสั่นขณะทำการวัด
    • การหักเหของแสง: ในสภาพอากาศที่ร้อนจัดใกล้พื้นดิน อาจทำให้แนวระดับสายตาดูเหมือนคลาดเคลื่อน (แต่ไม่ใช่ปัญหาที่ตัวกล้องโดยตรง)

เมื่อกล้องวัดระดับไม่ตรง ควรทำอย่างไร?

1. ตรวจสอบเบื้องต้น (ก่อนคิดว่ากล้องเสีย):

  • ตรวจสอบการตั้งกล้อง:
    • ขาตั้งมั่นคงหรือไม่?
    • ลูกน้ำวงกลมอยู่ตรงกลางตลอดการหมุนกล้อง 360 องศาหรือไม่? (หากไม่ อาจเป็นสัญญาณของแกนดิ่งที่ไม่ตั้งตรง)
  • ตรวจสอบการอ่านค่า:
    • แน่ใจว่าไม้สต๊าฟตั้งตรง และอ่านค่าได้ถูกต้อง
    • ไม่มีปัญหา Parallax หรือไม่ (โดยการขยับศีรษะเล็กน้อยแล้วภาพไม่เคลื่อนที่)
  • ทดสอบ Compensator:

    หลังจากปรับระดับกล้องแล้ว ลองเคาะเบาๆ ที่ด้านข้างของกล้อง หากเส้นเล็งในกล้องสั่นไหวและกลับมาหยุดนิ่งที่ตำแหน่งเดิมได้อย่างรวดเร็ว แสดงว่า Compensator ยังทำงานปกติ แต่ถ้าเส้นเล็งค้าง หรือไม่กลับมาที่เดิม แสดงว่ามีปัญหา

2. ทำการทดสอบ "Two-Peg Test" (การทดสอบ 2 หมุด):

นี่คือการทดสอบมาตรฐานที่สำคัญที่สุดเพื่อตรวจสอบว่าแนวระดับสายตาของกล้องขนานกับแกนดิ่งของกล้องหรือไม่ และกล้องให้ค่าที่ถูกต้องหรือไม่

  1. เลือกพื้นที่ราบ วางหมุด A และหมุด B ห่างกันประมาณ 30-50 เมตร
  2. ตั้งกล้องวัดระดับที่จุดกึ่งกลางระหว่างหมุด A และ B (จุด C) อ่านค่าที่ไม้สต๊าฟที่หมุด A และ B แล้วคำนวณความแตกต่างของระดับ (DH1)
  3. ย้ายกล้องไปตั้งใกล้กับหมุด A มากๆ (ประมาณ 1-2 เมตรจากหมุด A) แต่อยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันกับหมุด A และ B อ่านค่าที่ไม้สต๊าฟที่หมุด A และ B อีกครั้ง แล้วคำนวณความแตกต่างของระดับ (DH2)
  4. เปรียบเทียบ DH1 และ DH2 หากกล้องปกติ ค่าทั้งสองควรใกล้เคียงกันมาก (ความคลาดเคลื่อนไม่เกินที่กล้องกำหนด เช่น 1-2 มม.) หากค่าแตกต่างกันมาก แสดงว่ากล้องไม่ตรง

(การคำนวณที่ซับซ้อนขึ้นสามารถหาได้จากคู่มือหรือแหล่งข้อมูลการสำรวจ)

3. การปรับแก้เบื้องต้น (Field Adjustment - หากทำได้):

กล้องวัดระดับบางรุ่นอาจมีสกรูปรับแก้ที่ภายนอก (มักจะเป็นสกรูปรับเส้นเล็ง) ซึ่งช่วยให้คุณสามารถปรับแก้เองได้เล็กน้อย หากผล Two-Peg Test มีความคลาดเคลื่อนไม่มากเกินไป อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาคู่มือของกล้องรุ่นนั้นๆ อย่างละเอียดก่อนทำการปรับแก้ เพราะการปรับที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้กล้องเสียมากกว่าเดิม

4. เมื่อไหร่ที่ควรส่งซ่อม/คาริเบทโดยผู้เชี่ยวชาญ:

  • เมื่อผลการทดสอบ Two-Peg Test คลาดเคลื่อนเกินกว่าที่ยอมรับได้ หรือเกินกว่าที่คุณจะปรับแก้เองได้
  • เมื่อ Compensator มีอาการค้าง ไม่ทำงาน หรือสั่นไหวผิดปกติอย่างต่อเนื่อง
  • หลังจากกล้องตกหล่นอย่างรุนแรง หรือได้รับการกระแทก
  • ตามกำหนดการคาริเบทประจำปี (แนะนำปีละครั้ง) เพื่อรักษาความแม่นยำสูงสุดและได้รับใบรับรอง

สรุป:

กล้องวัดระดับเป็นเครื่องมือที่ละเอียดอ่อนและต้องการการดูแลเอาใจใส่ การสังเกตสัญญาณผิดปกติ การตรวจสอบเบื้องต้น และการทำ "Two-Peg Test" เป็นสิ่งสำคัญที่นักสำรวจทุกคนควรรู้และปฏิบัติได้ เพื่อยืนยันความแม่นยำของเครื่องมือ หากพบปัญหาที่เกินความสามารถในการแก้ไขเอง การส่งกล้องเข้ารับบริการคาริเบทและซ่อมบำรุงกับผู้เชี่ยวชาญที่มีใบรับรองมาตรฐาน จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ากล้องวัดระดับของคุณพร้อมใช้งานด้วยความแม่นยำสูงสุด และงานของคุณจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและถูกต้อง


ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้