กล้องวัดมุม เหมาะกับงานแบบไหน?
ในการทำงานด้านสำรวจ วิศวกรรม และก่อสร้าง ความแม่นยำ คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ และหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยสร้างความแม่นยำนั้นก็คือ กล้องวัดมุม (Theodolite) เครื่องมือที่วัดองศา มุม และแนวได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่ากับงานเล็กหรือใหญ่
บทความนี้สรุปให้ว่า กล้องวัดมุมเหมาะกับงานแบบไหนบ้าง เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ
กล้องวัดมุมคืออะไร?
กล้องวัดมุม (Theodolite) คืออุปกรณ์สำหรับวัดมุมในแนวราบ (Horizontal Angle) และแนวดิ่ง (Vertical Angle) ด้วยความแม่นยำสูง ใช้ได้ทั้งภาคสนามและในอาคาร มีให้เลือกทั้งแบบ ดิจิตอล (Digital Theodolite) และ แอนะล็อก (Optical Theodolite) ตามงบและลักษณะงาน
กล้องวัดมุมเหมาะกับงานแบบไหน?
1. งานวางแนวโครงสร้าง
- วางแนวเสาอาคาร
- วางแนวรั้วหรือกำแพง
- วางแนวผนังห้องประชุม
- ติดตั้งเครื่องจักรที่ต้องการมุมฉากเป๊ะๆ
ข้อดี: มุมที่แม่นยำช่วยลดความผิดพลาดของงานก่อสร้างในระยะยาว
2. งานสำรวจที่ดิน
- กำหนดขอบเขตพื้นที่
- แบ่งแปลงที่ดิน
- วางหมุดหลักฐานที่ดิน
- วัดมุมจากจุดอ้างอิงต่าง ๆ
ข้อดี: วัดมุมได้แม่นยำแม้พื้นที่จำกัด และทำงานร่วมกับสายวัดได้ดี
3. งานตกแต่งภายใน (Interior Layout)
- วางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ Built-in
- จัดแนวฝ้าเพดาน-ผนังเบา
- วางตำแหน่งประตู หน้าต่าง อุปกรณ์ต่าง ๆ
ข้อดี: ให้มุมฉากและแนวขนานแม่นยำกว่าการใช้สายวัดหรือเลเซอร์ทั่วไป
4. งานติดตั้งระบบสาธารณูปโภค
- ท่อน้ำประปา / ท่อระบายน้ำ
- ระบบไฟฟ้าใต้ดิน
- แนวสายสื่อสาร
ข้อดี: ควบคุมแนวและมุมได้แม่นยำ โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่
5. งานสำรวจเชิงวิศวกรรม (Engineering Survey)
- ตรวจสอบเสาไฟฟ้าหรือเสาเข็ม
- วัดการทรุดตัวของอาคาร
- ตรวจสอบความเอียงของโครงสร้าง
ข้อดี: อ่านค่าความเอียงได้ละเอียดถึงระดับวินาทีขององศา (1° = 3600)
แล้วกล้องวัดมุมเหมาะกับใคร?
️ วิศวกรโยธา ช่างสำรวจ ️ ช่างเขียนแบบ ช่างตกแต่งภายใน ผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้วางระบบสาธารณูปโภค
ถ้างานของคุณ ความแม่นยำของมุม คือสิ่งจำเป็น กล้องวัดมุมคือคำตอบครับ