คู่มือเลือกซื้อกล้องและอุปกรณ์สำรวจสำหรับช่างสำรวจมือใหม่
สำหรับช่างสำรวจมือใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกของงานสำรวจและกำลังมองหาอุปกรณ์คู่ใจตัวแรก การมีความรู้พื้นฐานและแนวทางเบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อเป็นสิ่งสำคัญมาก สิ่งนี้จะช่วยให้คุณ:
- เลือกอุปกรณ์ได้ตรงกับประเภทงาน: มั่นใจว่าได้เครื่องมือที่ตอบโจทย์การทำงานของคุณจริงๆ
- ไม่เสียเงินเกินจำเป็น: หลีกเลี่ยงการลงทุนในสิ่งที่ยังไม่จำเป็นสำหรับมือใหม่
- ได้เครื่องมือที่ใช้งานได้จริงและคุ้มค่า: ได้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับการลงทุน
ช่างสำรวจมือใหม่ควรรู้อะไรบ้างก่อนเลือกซื้อกล้อง/อุปกรณ์สำรวจ?
1. รู้ก่อนว่า "งานที่ทำ" เป็นประเภทไหน
กล้องและอุปกรณ์สำรวจแต่ละประเภทเหมาะกับงานที่ต่างกัน การทำความเข้าใจลักษณะงานของคุณก่อนจะช่วยให้เลือกได้ถูกต้อง:
- วัดระดับดิน, เทพื้น, ควบคุมระดับ: ควรใช้ กล้องระดับ (Auto Level) + ไม้สต๊าฟ
- วางแนวผัง, วัดมุม, วางหมุด: เหมาะกับ กล้องวัดมุม (Theodolite) หรือ Total Station
- วางพิกัด + วัดระยะแม่นยำ: ต้องใช้ Total Station
- วางแนวในอาคาร: กล้องเลเซอร์แนวระดับ (Laser Level) เป็นตัวเลือกที่ดี
- สำรวจกลางแจ้งในพื้นที่กว้าง: GPS RTK หรือ โดรน จะช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
2. เข้าใจความสามารถพื้นฐานของกล้องแต่ละแบบ
การรู้ว่ากล้องแต่ละชนิดทำอะไรได้บ้างจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น:
- กล้องระดับ (Auto Level): ใช้วัดระดับแนวราบ (ความสูง) เหมาะสำหรับช่างก่อสร้างทั่วไปที่ต้องการคุมระดับพื้น หรือความสูงของอาคาร
- กล้องวัดมุม (Theodolite): ใช้วัดมุมแนวราบและแนวดิ่ง แต่ไม่สามารถวัดระยะทางได้ในตัว จึงต้องใช้เทปวัดระยะร่วมด้วย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการวางแนวหรือตรวจสอบมุม
- Total Station: เป็นกล้องสำรวจดิจิทัลที่สามารถวัดได้ทั้งมุม ระยะทาง และคำนวณพิกัด (X, Y, Z) ได้ในตัว เหมาะสำหรับช่างสำรวจที่ทำงานวางผัง, วางหมุด, หรือสำรวจพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ต้องการความแม่นยำสูง
- GPS RTK (GNSS RTK): ใช้วัดพิกัด X, Y, Z โดยไม่ต้องตั้งกล้อง เหมาะสำหรับงานภาคสนามกลางแจ้งที่มีพื้นที่กว้างขวาง และต้องการความรวดเร็ว
- Laser Level (กล้องเลเซอร์แนวระดับ): ใช้วางแนวเส้นตรงในงานตกแต่งภายใน หรืองานติดตั้ง เหมาะสำหรับช่างเฟอร์นิเจอร์ ช่างตกแต่งภายใน
3. รู้จักอุปกรณ์เสริมที่จำเป็น
กล้องอย่างเดียวมักไม่พอสำหรับการทำงานสำรวจ คุณยังต้องมีอุปกรณ์อื่นร่วมด้วย:
- ขาตั้งกล้อง (Tripod): ใช้รองรับและตั้งกล้องสำรวจให้มั่นคงและได้ระดับ
- ไม้สต๊าฟ (Staff): ใช้อ่านค่าระดับเมื่อใช้ร่วมกับกล้องระดับ
- โพลปริซึม (Prism Pole): ใช้กับ Total Station สำหรับวัดพิกัด โดยมีปริซึมเป็นตัวสะท้อนสัญญาณ
- ลูกน้ำฟองกลม (Bubble Level): มักจะติดอยู่บนไม้สต๊าฟหรือโพลปริซึม ช่วยให้ตั้งอุปกรณ์ในแนวดิ่งได้ถูกต้อง
- เทปวัดระยะ: ใช้ควบคู่กับกล้องวัดมุม หรือใช้ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของระยะที่วัดจาก Total Station
4. ตั้งงบประมาณให้เหมาะสม
ในฐานะมือใหม่ คุณไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นที่แพงที่สุดตั้งแต่แรก การตั้งงบประมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้อุปกรณ์ที่คุ้มค่ากับการใช้งานเริ่มต้น:
- งบ 5,000 20,000 บาท: อาจพิจารณา กล้องระดับมือหนึ่งหรือมือสอง พร้อมไม้สต๊าฟ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเริ่มต้นงานควบคุมระดับ
- งบ 10,000 30,000 บาท: สามารถเลือกซื้อ กล้องวัดมุม พร้อมเทปวัดระยะ ซึ่งครอบคลุมงานวางแนวและวัดมุมได้ดี
- งบ 30,000 80,000 บาท: มีตัวเลือกเป็น Total Station มือสอง หรือรุ่นเริ่มต้น ซึ่งจะทำให้ทำงานได้หลากหลายขึ้นและมีความแม่นยำสูงขึ้น
- งบมากกว่า 80,000 บาท: หากวางแผนจะทำงานจริงจังในระยะยาว การลงทุนใน Total Station รุ่นใหม่ พร้อมโปรแกรมเก็บข้อมูลและประมวลผลจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
5. ดูเรื่องการรับประกันและศูนย์บริการ
กล้องสำรวจเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการการสอบเทียบและการบำรุงรักษาเป็นระยะ ดังนั้น ควรเลือกซื้อกล้องจากแบรนด์ที่มี ศูนย์บริการในประเทศไทย ที่ได้มาตรฐาน เช่น Leica, Topcon, Sokkia, Nikon หรือ Trimble เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนและบริการหลังการขายที่ดี
สรุปสำหรับมือใหม่:
การเลือกซื้อกล้องและอุปกรณ์สำรวจที่ดีที่สุดสำหรับช่างสำรวจมือใหม่คือการ เริ่มต้นจากความเข้าใจว่างานที่คุณทำต้องการอะไร และ กล้องแต่ละแบบทำอะไรได้บ้าง รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่จำเป็น อย่ารีบร้อนตัดสินใจซื้อ ควรลองใช้งานจริง หรือปรึกษาช่างสำรวจที่มีประสบการณ์ก่อนเสมอ และหากมีแผนที่จะประกอบอาชีพนี้อย่างจริงจังในอนาคต การลงทุนกับ Total Station ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวอย่างแน่นอน
ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด