ปัญหาและวิธีแก้ไขการเล็งปริซึมในพื้นที่แสงสะท้อนสูง
การปฏิบัติงานสำรวจในพื้นที่ที่มีแสงสะท้อนสูง เช่น แดดจ้า พื้นผิวโลหะ กระจก หรือผิวน้ำ เป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับช่างสำรวจ เพราะอาจส่งผลต่อความแม่นยำในการวัดระยะด้วยกล้อง Total Station ซึ่งมีสาเหตุหลักและวิธีการแก้ไขดังนี้
สาเหตุของปัญหา
- แสงสะท้อนเข้ากล้อง (Glare): เมื่อเล็งกล้องตรงไปยังแหล่งกำเนิดแสงสะท้อน เช่น กระจกหรือพื้นผิวโลหะ จะทำให้ภาพเป้าหมายและเส้นเล็ง (Crosshair) ไม่ชัดเจนหรือจ้าเกินไป
- คลื่นร้อน (Heat Shimmer): แดดจัดที่ส่องกระทบบนพื้นผิว เช่น ถนนคอนกรีต จะทำให้เกิดคลื่นความร้อนในอากาศ ส่งผลให้ภาพของปริซึมสั่นไหว มองเห็นไม่ชัด และค่าที่วัดได้ไม่นิ่ง
- การหักเหของแสง (Refraction): อากาศที่มีอุณหภูมิไม่เท่ากันจะทำให้แสงเกิดการหักเหเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลต่อความแม่นยำของระยะทางที่เครื่องมือวัดได้
- พื้นหลังที่รก (Background Clutter): หากพื้นหลังของปริซึมมีวัตถุที่มีสีหรือลักษณะใกล้เคียงกัน หรือมีการสะท้อนแสงสูง จะทำให้การเล็งเป้าหมายทำได้ยากขึ้น
วิธีการแก้ไขในภาคสนาม
- ปรับตำแหน่งปริซึม: หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงการวางปริซึมในตำแหน่งที่แสงแดดส่องตรง ๆ หรือในแนวเดียวกับพื้นผิวสะท้อนแสง หากเลี่ยงไม่ได้ อาจขยับปริซึมออกเล็กน้อยจากแนวสะท้อน
- ใช้อุปกรณ์เสริม:
- ปริซึมที่มี Target Plate: แผ่นเป้าหมายที่มีสีตัดกับพื้นหลังจะช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนกว่าปริซึมแบบใส
- ใช้ฟิลเตอร์เลนส์ (Sunshade): บางรุ่นมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยกรองแสงจ้าและลดแสงสะท้อนเข้าเลนส์
- เลือกเวลาทำงาน: หากสามารถจัดการได้ ควรหลีกเลี่ยงการทำงานในช่วงเวลาเที่ยงที่แดดจัด เพราะเป็นช่วงที่เกิดคลื่นร้อนและแสงสะท้อนรุนแรงที่สุด การทำงานในตอนเช้าหรือตอนเย็นจะช่วยให้ได้ค่าที่นิ่งกว่า
- ลดระยะเล็ง: หากจำเป็นต้องวัดในพื้นที่ที่มีคลื่นร้อนหรือแสงสะท้อนมาก ลองย้ายกล้องเข้าไปใกล้เป้าหมายมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากสภาพอากาศ
สรุป
ปัญหาการเล็งปริซึมในพื้นที่แสงสะท้อนสูงเป็นเรื่องปกติที่สามารถจัดการได้ สาเหตุหลักมาจากแสงจ้า, คลื่นร้อน, และการหักเหของแสง ซึ่งส่งผลให้การเล็งทำได้ยากและค่าที่ได้ไม่เสถียร แต่ด้วยการปรับตำแหน่ง, การใช้อุปกรณ์เสริมที่เหมาะสม, และการเลือกช่วงเวลาในการทำงานที่ถูกต้อง จะช่วยลดผลกระทบเหล่านี้และเพิ่มความแม่นยำของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
