ทำความรู้จัก Fine Mode ในกล้อง Total Station

ทำความรู้จัก Fine Mode ในกล้อง Total Station

Fine Mode คือหนึ่งในโหมดการวัดระยะของกล้อง Total Station ที่มีระบบ EDM (Electronic Distance Measurement) ทันสมัย โหมดนี้ออกแบบมาเพื่อมอบความแม่นยำสูงสุดในการวัด แม้จะต้องใช้เวลาในการประมวลผลนานกว่าโหมดปกติเล็กน้อยก็ตาม

Fine Mode คืออะไรและทำงานอย่างไร?

Fine Mode เป็นโหมดที่เน้นความแม่นยำเป็นหลัก หัวใจของการทำงานคือกล้องจะยิงสัญญาณแสง (เลเซอร์หรืออินฟราเรด) ไปยังปริซึมหรือเป้าหมาย จากนั้นระบบจะคำนวณระยะทางจากเวลาที่สัญญาณใช้ในการสะท้อนกลับ

สิ่งที่ทำให้ Fine Mode แม่นยำสูงคือ กล้องจะทำการวัดและประมวลผลซ้ำหลายครั้ง (Multiple Measurement) ก่อนนำค่าทั้งหมดมาหาค่าเฉลี่ย กระบวนการนี้ช่วยให้ได้ค่าระยะทางที่เสถียรและแม่นยำที่สุด

ระยะเวลาและความแม่นยำในการวัด

การทำงานใน Fine Mode จะใช้เวลาประมาณ 0.9 3 วินาที ขึ้นอยู่กับรุ่นกล้อง ซึ่งช้ากว่าโหมด Tracking Mode ที่เน้นความเร็วในการวัดต่อเนื่อง แต่แลกมาด้วยความแม่นยำที่สูงมาก โดยทั่วไป ความแม่นยำจะอยู่ที่ประมาณ ±(2 mm + 2 ppm x ระยะทาง)

ตัวอย่าง: หากวัดระยะ 100 เมตรด้วย Fine Mode ค่าที่ได้อาจมีความผิดพลาดเพียงประมาณ ±2.2 มิลลิเมตร เท่านั้น

Fine Mode เหมาะกับงานแบบไหน?

ด้วยความสามารถในการให้ค่าที่แม่นยำสูง Fine Mode จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดอ่อนและปราศจากข้อผิดพลาด เช่น:

• งานก่อสร้างฐานราก อาคาร หรือสะพาน
• งานสำรวจที่ดินเพื่อออกโฉนด
• งานตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้าง (QC)
• งาน Alignment ทางหลวงหรือทางรถไฟ

ข้อควรระวังในการใช้ Fine Mode

• ความนิ่งของอุปกรณ์: เพื่อให้ได้ความแม่นยำสูงสุด ทั้งกล้อง Total Station และปริซึมต้องนิ่งสนิทขณะวัด
• ไม่เหมาะกับเป้าหมายเคลื่อนที่: Fine Mode ไม่เหมาะสำหรับใช้กับเป้าหมายที่เคลื่อนที่ต่อเนื่อง หรืองานที่เร่งรีบและต้องวัดหลายจุดเร็วๆ

สรุป

Fine Mode เป็นโหมดการวัดที่สำคัญสำหรับงานสำรวจที่ต้องการความละเอียดและถูกต้องสูงสุด การเลือกใช้โหมดนี้อย่างเหมาะสมจะช่วยให้งานของคุณมีคุณภาพและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น