ทริคในการเลือกซื้อกล้องระดับ (Automatic Level)

Last updated: 9 ก.ค. 2568 | 484 จำนวนผู้เข้าชม |

ทริคในการเลือกซื้อกล้องระดับ (Automatic Level)

การเลือกซื้อกล้องระดับ (Automatic Level) ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้งานสำรวจหรืองานก่อสร้างของคุณมีความแม่นยำและคุ้มค่าที่สุด การตัดสินใจเลือกซื้อควรพิจารณาจากปัจจัยสำคัญหลายประการ เช่น ประเภทของงานที่ต้องทำ ความละเอียดที่ต้องการ ระยะทางการวัด รวมถึงงบประมาณที่คุณมี เพื่อให้ได้กล้องที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด

1. เลือกจากประเภทของงานที่ใช้

การเลือกกล้องระดับควรเริ่มต้นจากการพิจารณาประเภทของงานที่คุณจะนำไปใช้ เพราะแต่ละงานต้องการความแม่นยำและกำลังขยายที่แตกต่างกัน:

ประเภทงาน	กล้องแนะนำ	เหตุผล
งานก่อสร้างทั่วไป (บ้าน, ถนนเล็ก)	กำลังขยาย 20-24x	เพียงพอสำหรับการวัดระยะกลาง (50100 เมตร)
งานโยธา-ชลประทาน (ถนนใหญ่, คลอง, สะพาน)	กำลังขยาย 28-32x	วัดระยะไกลได้แม่นยำ เหมาะกับงานที่ต้องควบคุมระดับ
งานรังวัดระดับละเอียด (งานแผนที่, งานเขื่อน, งานสำรวจดิน)	กำลังขยาย 32-36x	ให้ค่าระดับแม่นยำสูง ใช้งานระยะไกลได้ดี
งานสำรวจระดับละเอียดระดับ mm (เช่น งานทรุดตัว)	Digital Level หรือกล้องอัตโนมัติคุณภาพสูง (เช่น Leica DNA, Topcon DL)	ค่าความคลาดเคลื่อนต่ำมาก พร้อมฟังก์ชันบันทึกข้อมูล

2. เลือกจากกำลังขยาย (Magnification)

กำลังขยายของกล้องมีผลโดยตรงต่อความสามารถในการมองเห็นและอ่านค่าในระยะไกล:

กำลังขยาย	เหมาะสำหรับ	ข้อดี	ข้อเสีย
20x -24x	งานทั่วไป, ระยะใกล้	ราคาถูก, น้ำหนักเบา	ความแม่นยำต่ำกว่ารุ่นสูง
28x -32x	งานกลางถึงไกล	แม่นยำดี, ใช้งานได้หลากหลาย	ราคาสูงกว่าเล็กน้อย
>32x	งานระดับมืออาชีพ	วัดไกลมาก, แม่นยำสูงสุด	ราคาสูง, ต้องการขาตั้งที่มั่นคงเป็นพิเศษ

3. พิจารณาค่าความแม่นยำ (Accuracy)

ค่าความแม่นยำของกล้องระดับจะแสดงเป็นค่าความคลาดเคลื่อนต่อระยะทาง (เช่น ±2.0 mm/km, ±1.5 mm/km):

สำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูง ควรเลือกกล้องที่มีค่าความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด
หากเป็นการใช้งานในงานก่อสร้างทั่วไป ค่าคลาดเคลื่อนประมาณ ±2.5 mm/km ถือว่าเพียงพอและเป็นที่ยอมรับได้

4. ดูระบบปรับระดับอัตโนมัติ (Compensator)

ระบบ Compensator มีบทบาทสำคัญในการรักษาความแม่นยำของการวัด:

ควรเลือกกล้องที่มีระบบ Compensator ที่เสถียร (เช่น ระบบแม่เหล็ก Magnetic Damping)
ระบบนี้ช่วยให้กล้องปรับระดับตัวเองได้โดยอัตโนมัติแม้จะติดตั้งไม่สมบูรณ์เล็กน้อย ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจากการตั้งกล้องด้วยมือ

5. แบรนด์และศูนย์บริการ

การเลือกซื้อกล้องจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงจะช่วยให้มั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย:

แบรนด์	จุดเด่น
Leica (เยอรมนี)	แม่นยำสูง, ทนทาน, มีศูนย์บริการดี
Topcon (ญี่ปุ่น)	ใช้งานง่าย, ทนทาน, ราคาเหมาะสม
Sokkia (ญี่ปุ่น)	ระบบกลไกเสถียร, เหมาะกับงานภาคสนามสำหรับช่าง
Nikon (ญี่ปุ่น)	คุณภาพดี, ราคากลาง ๆ
South (จีน)	ราคาเป็นมิตร, เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น หรือมีงบประมาณจำกัด

ทริคพิเศษเพิ่มเติมในการเลือกซื้อ

ลองของจริงก่อนซื้อ: หากเป็นไปได้ ควรทดลองปรับภาพ ความคมชัด และระยะโฟกัสของกล้องด้วยตนเองก่อนตัดสินใจ
ตรวจสอบใบรับประกันและบริการสอบเทียบ: ควรเลือกซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ และมีการรับประกันพร้อมบริการสอบเทียบกล้อง
คำนึงถึงอุปกรณ์เสริม: อย่าลืมเผื่อเงินสำหรับขาตั้งกล้องและไม้สต๊าฟ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ต้องเลือกให้ตรงรุ่นและมีคุณภาพดีเช่นกัน