การตรวจสอบการทรุดตัวของดินด้วยกล้องระดับ (Settlement Monitoring)
การตรวจสอบการทรุดตัวของดิน (Settlement Monitoring) โดยใช้ กล้องระดับ (Automatic / Digital Level) เป็นวิธีที่นิยมอย่างมากในงานสำรวจและวิศวกรรมโยธา เนื่องจากให้ข้อมูลที่แม่นยำและสามารถตรวจสอบซ้ำได้ในระยะยาว
หลักการทำงาน
หลักการพื้นฐานคือการใช้กล้องระดับเพื่อหาค่าความสูง (Elevation) ของ หมุดอ้างอิง (Benchmark) และ จุดตรวจวัด (Monitoring Points) ที่ติดตั้งไว้บนพื้นดินหรือโครงสร้าง จากนั้นจึงนำค่าที่วัดได้ในช่วงเวลาที่ต่างกันมาเปรียบเทียบกัน หากค่าความสูงของจุดตรวจวัดลดลงจากเดิม แสดงว่ามีการ ทรุดตัว (Settlement) เกิดขึ้น
ขั้นตอนการตรวจสอบ
- การตั้งหมุดควบคุม (BM): เลือกจุดที่อยู่บนพื้นแข็งหรือโครงสร้างที่มั่นคง ซึ่งจะไม่ทรุดตัว เพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิง
- การติดตั้งหมุดตรวจวัด (Monitoring Points): ติดตั้งหมุดเหล่านี้บนเสาอาคาร, ฐานราก, หรือพื้นดินรอบโครงการ ซึ่งเป็นบริเวณที่ต้องการเฝ้าระวังการทรุดตัว
- การวัดระดับ:
- ตั้งกล้องระดับให้อยู่ระหว่างหมุดอ้างอิง (BM) และจุดตรวจวัด (Monitoring Point)
- อ่านค่า Backsight (BS) ที่หมุดอ้างอิง
- อ่านค่า Foresight (FS) ที่จุดตรวจวัด
- การคำนวณ: คำนวณค่าความสูงของจุดตรวจวัดโดยใช้สูตร:
ค่าความสูง (RL) = ค่าความสูงของ BM + BS FS - การบันทึกและเปรียบเทียบ: บันทึกค่าความสูงที่ได้ และทำการวัดซ้ำเป็นระยะ ๆ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง หากค่า RL ของจุดตรวจวัดลดลงอย่างต่อเนื่อง แสดงว่ามีการทรุดตัว
ประโยชน์และการประยุกต์ใช้งาน
- ความแม่นยำสูง: วิธีนี้มีความแม่นยำสูงในระดับมิลลิเมตร
- ตรวจสอบซ้ำได้: สามารถทำการวัดซ้ำได้ตลอดช่วงอายุของโครงการ
- ค่าใช้จ่ายคุ้มค่า: มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการใช้เซนเซอร์หรือระบบ GPS
- การประยุกต์ใช้งาน: เหมาะสำหรับงานตรวจสอบการทรุดตัวของอาคาร, เขื่อน, ถนน หรือโครงสร้างต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
การตรวจสอบการทรุดตัวด้วยกล้องระดับจึงเป็นวิธีที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพ ช่วยให้วิศวกรและนักสำรวจสามารถเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับโครงสร้างได้อย่างทันท่วงที
