อุปกรณ์ที่ควรเตรียม
- ถุงซิปล็อกใสขนาดใหญ่ (A4–A3 หรือ 3–5 ลิตร) หลายใบ
- ฟิล์มห่อพาเลต/แรป หรือถุงขยะหนา 30–45 ลิตร
- เทปผ้า/เทปไฟฟ้า, ยางรัด, เคเบิลไทร์, คลิป/แคลมป์
- ผ้าไมโครไฟเบอร์ไม่เป็นขุย และกระดาษซับเลนส์
- ซองกันชื้น (ซิลิกาเจล) 50–200 กรัม
- แผ่นพลาสติกใส/ผ้าใบ (≥ 1.5×2 ม.) หรือร่มสนาม
- ขวดน้ำพลาสติกใส 1.5 ลิตร (ดัดแปลงเป็นฮูดเลนส์)
หลีกเลี่ยง: ทิชชูหยาบ น้ำยาทำความสะอาดรุนแรง ไดร์/ฮีตเตอร์เป่าจ่อเลนส์หรือซีล
1) ทำ “ปลอกกันฝน” ให้ตัวกล้อง (ประมาณ 2 นาที)
- คลุมตัวเครื่องด้วยถุงซิปใส โดยเว้นหน้าเลนส์และเลนส์ตาให้โล่ง
- พันแรปรอบลำตัว 1–2 รอบเพื่อกันละออง (อย่าปิดช่องระบายอากาศ/ลำแสง)
- เจาะช่องเฉพาะที่จำเป็น (จอ ปุ่ม พอร์ต สายสะพาย ช่อง plummet) แล้วปิดขอบรูด้วยเทปผ้าให้แน่น
- ครอบหัว tribrach และวงแหวนยึดด้วยถุงซิปอีกชั้น รัดด้วยยางรัดเพื่อตัดเส้นทางน้ำ
ไม่ควรห่อพลาสติกทึบทั้งเครื่องโดยไม่มีช่องระบาย เพราะความชื้นจะขังเป็นฝ้าใน
2) ทำฮูดเลนส์แบบง่าย
- ตัดขวดพลาสติกใสเป็นปลอกครึ่งท่อน สวมปากเลนส์ยื่น 3–5 ซม.
- บุขอบปลอกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์บาง ๆ เพื่อลดโอกาสขูดเคลือบเลนส์
3) ป้องกันน้ำย้อนเข้าพอร์ตและสาย (ทำ “drip loop”)
- จัดสายทุกเส้นให้ทำห่วงรูปตัว U ต่ำกว่าระดับพอร์ต เพื่อให้น้ำหยดลงที่ท้องห่วง
- ปิดขอบพอร์ตด้วยเทปผ้าบาง ๆ พอกันละออง (อย่าปิดทึบจนระบายอากาศไม่ได้)
- หลังใช้งาน ถอดสายและเช็ดคอนแท็กต์ให้แห้ง
4) ทำหลังคาชั่วคราวเหนือกล้อง
- ใช้ร่มหนีบกับขาตั้งด้านอับลม ให้ชายร่มบังหน้าเลนส์
- หรือใช้ผ้าใบ/แผ่นพลาสติกกับเชือก ทำทรง A-frame ระหว่างขาตั้งกับเสา/รถ
- ตั้งมุมไหลให้น้ำไหลออกนอกวงขาตั้ง ไม่ย้อนสู่หัวฐาน
5) ขาตั้งและพื้นสัมผัส
- คลุมหัวขาตั้งด้วยปลอกพลาสติกและยางรัด
- คลุมปลายขาด้วยถุงเล็กเพื่อลดโคลนย้อนขึ้นหัวขา
- บนพื้นลื่นให้ปูแผ่นยางกันลื่นใต้ปลายขาเพื่อลดการไถล
6) ปริซึม โพล และซีลสะท้อน
- ครอบตัวเป้าด้วยถุงซิปใส ตัดช่องเฉพาะหน้าปริซึม/ซีล แล้วปิดขอบด้วยเทป
- ติดปลอกกันน้ำที่จุดล็อกความสูงของโพล ป้องกันน้ำซึมเข้าท่อใน
- ทำฮูดเล็กเหนือหน้าปริซึมเพื่อลดหยดน้ำเกาะและละอองฝน
7) แนวปฏิบัติระหว่างปฏิบัติงานขณะฝนหนัก
- ซับหยดน้ำบนเลนส์/ปริซึมด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์เบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ
- ลดการยก–ลดขาตั้งโดยไม่จำเป็น เพื่อลดการชะน้ำเข้าสู่คอขาตั้ง
- บันทึกงานถี่ขึ้น เผื่อกรณีเครื่องดับ/ชื้นเข้าอุปกรณ์
- หากละอองน้ำเกาะต่อเนื่อง อาจใช้สเปรย์กันฝ้า (anti-fog) ที่เหมาะกับเลนส์และได้รับอนุญาตจากผู้ผลิต
8) ขั้นตอนหลังเลิกงาน (สำคัญที่สุด)
- เช็ดซับให้แห้ง เน้นปุ่ม ร่องสกรู ขั้วต่อ และขอบเลนส์
- เปิดฝาพอร์ตทิ้งไว้ในที่ถ่ายเทลม 30–60 นาที เพื่อไล่ความชื้น
- เก็บในเคสพร้อมซิลิกาเจล วันแรกปิดไม่สนิท 100% เพื่อระบายความชื้น
- ถอดแบตเตอรี่ เช็ดคอนแท็กต์ให้แห้ง (ใช้ IPA ปริมาณเล็กน้อยได้เมื่อจำเป็น)
- วันถัดไป ทดสอบ plummet ระบบโฟกัส และปุ่ม หากยังมีฝ้าภายในหรือกลิ่นอับ ให้ส่งตรวจศูนย์บริการ
ข้อห้ามและความผิดพลาดที่พบบ่อย
- ห่อพลาสติกแนบสนิททั้งเครื่องโดยไร้ช่องระบาย ทำให้ความชื้นขัง
- ใช้ไดร์/ฮีตเตอร์เป่าจ่อเลนส์หรือซีล เสี่ยงทำลายกาวและยาง
- เช็ดเลนส์ด้วยทิชชูหยาบหรือผ้าเปื้อนทราย ทำให้เคลือบเลนส์เป็นรอย
- ไม่ทำ drip loop ที่สาย ส่งผลให้น้ำไหลตรงเข้าพอร์ต
- เก็บเครื่องทั้งที่ยังชื้น เสี่ยงเชื้อราเลนส์และคอนแท็กต์กัดกร่อน
เช็กลิสต์ก่อนเริ่มงานกลางฝน (30 วินาที)
- มีปลอกกันฝนชั่วคราว ช่องเลนส์/ปุ่มใช้งานได้
- มีร่มหรือผ้าใบกั้นฝนตกตรง ๆ
- สายทุกเส้นทำ drip loop แล้ว
- หัวขาตั้งและจุดเสี่ยงถูกคลุมป้องกันน้ำ
- ผ้าไมโครไฟเบอร์และซองกันชื้นพร้อมใช้
- วางแผน “เช็ด–ผึ่ง–ดูดชื้น” หลังเลิกงาน
ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด