1) หลักคิดก่อนเลือกโหมด

1. ชนิดเป้าหมาย: ปริซึม / ซีลสะท้อน / ผิววัสดุจริง (Reflectorless)
2. ช่วงระยะทาง: ใกล้ กลาง ไกลมาก
3. ความต้องการงาน: ความเร็ว (Tracking/Fast) หรือความละเอียด (Fine/High Precision)
4. สภาพแวดล้อม: แดดจัด แสงสะท้อน ฝุ่น ฝน ไอร้อน
5. มาตรฐานโครงการ: ขอบเขตความคลาดที่ยอมรับได้

2) โหมดตามชนิดเป้าหมาย (Target Type)

3) โหมดความเร็วความละเอียด (EDM Measuring Mode)

Single vs Average: Single เร็ว ใช้ตรวจคร่าว; Average (เช่น 35 ครั้ง) ลดคลาดแบบสุ่ม เหมาะกับระยะไกล/ไอร้อน/ลม

4) โหมดคำนวณผลลัพธ์

• Slope / Horizontal / Vertical Distance: วัดระยะลาดแล้วให้เครื่องคำนวณระยะราบ/ดิ่งอัตโนมัติ เหมาะกับงานวางผังหรือหาค่าความต่างระดับ
• REM (Remote Elevation Measurement): หาระดับยอดวัตถุเมื่อเข้าถึงฐานไม่ได้ (ป้าย คาน ปลายเสา)
• Offset / Missing Line (MLM): วัดฉากเข้าออกจากแนว หรือหาระยะระหว่างจุด AB โดยไม่ต้องเข้าถึงโดยตรง

5) ตัวอย่างการเลือกโหมด (ตารางสรุป)

6) การตั้งค่าที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำ

• Prism Constant/Offset: ต้องตรงกับรุ่นปริซึม ความต่างไม่กี่มม.มีผลทันที
• Atmospheric Correction (PPM): ป้อนอุณหภูมิ/ความกดอากาศ/ความชื้น เพื่อชดเชยระยะไกล
• Target Illumination / EDM Gain: บางรุ่นปรับความไวรับแสงได้ ลดสัญญาณหลอก
• Near Mode/Beam Spot: ระยะใกล้มากให้เปิดโหมดระยะใกล้ (หากเครื่องรองรับ)

7) ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย และวิธีหลีกเลี่ยง

1. เลือก Target ผิดชนิด ระยะคลาดทันที
   ตรวจเมนู Target ทุกครั้งก่อนเริ่มวัดชุดใหม่
2. ลืมปรับ Prism Constant เมื่อต่างชนิดปริซึม (มินิ/ใหญ่/360°)
3. ยิง Reflectorless บนผิวเงา/กระจก ได้ค่าหลอก
   เล็งผิวทึบ เปลี่ยนมุมตกกระทบ หรือใช้ปริซึม
4. ใช้ Tracking กับจุดส่งมอบควบคุม
   ช็อตสำคัญควรใช้ Fine + Average
5. ไม่ชดเชยสภาพอากาศในระยะไกล
   ป้อนค่า PPM หรือใช้โปรไฟล์มาตรฐานประจำวัน

8) เช็กลิสต์ก่อนยิงช็อตสำคัญ (ภายใน 30 วินาที)

• Target ถูกชนิด และ Prism Constant ถูกต้อง
• โหมดวัด = Fine/Average สำหรับจุดควบคุม
• โพลตั้งฉาก ฟองน้ำตรง ปริซึมสะอาด ไม่ร้าว
• ประเมินสภาพแสง/ไอร้อน หากแรง ให้เฉลี่ยเพิ่มหรือปรับเวลา
• วัดสลับ Face I/Face II กับจุดสำคัญเพื่อลดความคลาด